• เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6
• ผู้ประกวดทีมละ 1 – 3 คน พร้อมระบุชื่อทีม
• 1 ทีม สามารถส่งได้เพียง 1 ผลงาน

• ผลงานที่ส่งเข้าประกวด ต้องเป็นผลงานที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ วัฒนธรรม วิถีชุมชน และความเป็นไทยในจังหวัดนครปฐม อาทิ อาหาร วัด โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
• ผลงานที่ส่งเข้าประกวด จะต้องเป็นผลงานที่ถ่ายทำขึ้นเอง ไม่เป็นผลงานที่ทำซ้ำ ดัดแปลง และไม่เคยใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ไม่คัดลอกส่วนใดส่วนหนึ่งจากผลงานของผู้อื่น หรือไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือ ผิดกฎหมาย และผลงานต้องไม่เคยเผยแพร่หรือเคยได้รับรางวัลใดๆ มาก่อน หากตรวจพบคณะกรรมการประกวดขอตัดสิทธิ์ในการประกวดทันที
• ขอบเขตเนื้อหาในผลงานต้องไม่พาดพิงเรื่องการเมือง/ก่อให้เกิดความขัดแย้งใด ๆ และต้องไม่เข้าข่าย หมิ่นต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และไม่ใช้ถ้อยคำที่เป็นการดูถูก ดูหมิ่น เสียดสี และก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ต้องไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลอดจนไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียม ประเพณี ศีลธรรม และ ไม่ใช่ถ้อยคำที่ไม่สุภาพในคลิป
• สามารถใช้เสียงเพลงหรือเสียงประกอบที่ได้รับอนุญาตตามมาตรฐานชุมชนของ Social Media อาทิ Facebook, TikTok และ YouTube ได้
• สามารถใช้โปรแกรมในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ และผู้ส่งผลงานเข้าประกวดต้องเตรียม ส่งหลักฐานการทำงานผลงานไว้ ในกรณีคณะกรรมการขอดูหลักฐานเพิ่มเติม
• ผลงานที่ส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัล ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะ ICT โดยคณะฯ สามารถนำผลงานไปเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ของคณะฯ มหาวิทยาลัยมหิดล และชุมชนใกล้เคียง/รอบมหาวิทยาลัย ที่เป็นคู่ความร่วมมือของคณะ
• ผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

• จัดทำคลิปวีดีโอ จำนวน 2 คลิป ได้แก่ วิดีโอแนวนอน และวิดีโอสั้นแนวตั้ง ในรูปแบบ MP4, AVI หรือ MOV เท่านั้น ใส่คำบรรยาย (Subtitle) เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ โดยมีความละเอียดวิดีโอ ไม่ต่ำกว่า Full HD
• ขนาดและความยาวของคลิป
  • ประเภทคลิปวิดีโอ แนวนอน สัดส่วน 16:9 (1920×1080) Full HD ความยาวไม่ต่ำกว่า 2 นาที และ ไม่เกิน 10 นาที สามารถนำไปใช้เพื่อเผยแพร่และโปรโมทบนแพลตฟอร์ม YouTube และ Facebook ของคณะ ICT ม.มหิดล
  • ประเภทคลิปวิดีโอสั้น Short clip / Reels แนวตั้ง สัดส่วน 9:16 (1080×1920) ความยาว ไม่ต่ำกว่า 30 วินาที และไม่เกิน 1 นาที โดยจัดทำเป็นไฮไลท์ที่ตัดมาจากวิดีโอคลิปแนวนอน ที่สามารถนำไปใช้เพื่อเผยแพร่และโปรโมทบนแพลตฟอร์ม Instagram, YouTube, Facebook และ TikTok
    หมายเหตุ: คลิปวิดีโอที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีความละเอียดสูง และ คมชัด ทั้ง 2 รูปแบบ
• Upload ผลงานผ่านทาง Google Drive ส่วนตัวของผู้ส่งผลงาน พร้อมเปิดความเป็นส่วนตัว ให้ผู้ที่มีลิงค์ สามารถเข้ามารับชมวิดีโอได้ และส่ง URL มายัง Email: den.tup@mahidol.ac.th

คณะกรรมการจะพิจารณาแต่ละทีม โดยใช้เกณฑ์ในการตัดสิน ดังนี้
1. เอกลักษณ์ของจังหวัดนครปฐม: 50%

• การนำเสนอเอกลักษณ์ของจังหวัดนครปฐม ต้องมีความชัดเจนและเข้าใจง่าย มีความน่าสนใจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจหรือการรับรู้ใน การท่องเที่ยว
• เนื้อหาควรมีความสร้างสรรค์และสะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจังหวัด ทั้งในแง่วัฒนธรรม ประเพณี สถานที่ท่องเที่ยว หรือจุดเด่นที่ ทำให้จังหวัดนครปฐมเป็นที่จดจำ

2. การลำดับเนื้อเรื่อง องค์ประกอบศิลป์และคำบรรยาย: 35%

• เนื้อหา: เนื้อหามีความน่าสนใจและสอดคล้องกับหัวข้อการประกวด “เอกลักษณ์ของจังหวัดนครปฐม”
• การลำดับภาพ: การตัดต่อภาพและการเล่าเรื่องต้องลื่นไหล มีการเรียบเรียงภาพ/แสง/เสียง และคำบรรยายที่เหมาะสม
• องค์ประกอบศิลปะ: เน้นองค์ประกอบทางศิลป์ที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ชม รวมถึงเทคนิคการถ่ายทำที่ทันสมัย

3. มีการนำ IT มาใช้ในการทำคลิปวิดีโอ: 15%

• มีการนำ IT มาใช้ในการผลิตคลิป เช่น การตัดต่อวิดีโอ การใส่เอฟเฟกต์ หรือการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของวิดีโอ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
• มีการประยุกต์ใช้แอปพลิเคชัน/เครื่องมือทางด้าน IT เช่น
• Google Maps ในการทำ Roadmap Route
• Google Maps App Review สร้างรีวิวร้านค้าใน Google Maps
• Google Translate/ Google Lens ในการแปลภาษา
• AI หรือเทคโนโลยีที่ใช้ประกอบการทำคอนเทนต์ของคลิป
• Virtual Reality / Mixed Reality
• เทคโนโลยีโดรน / IoT
• Social Platform Activity Apps เช่น Gotogether

รางวัลการประกวด (มูลค่ารวมกว่า 30,000 บาท)

• ทีมที่ผ่านการพิจารณา และ ได้รับการเผยแพร่บนช่องทาง Social Media ของคณะ ICT จะได้รับรางวัลรวม 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
• ทีมที่ส่งผลงานเข้าประกวด และ ผ่านตามเกณฑ์ แต่ไม่ได้รับการพิจารณาให้เผยแพร่บน Social Media ของคณะ ICT จะได้รับเงินรางวัลรวม 1,500 บาท พร้อมเกียรติบัตร
  หมายเหตุ: เกณฑ์การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด หากมีข้อพิจารณาหรือข้อชี้แจงเพิ่มเติม สามารถติดต่อคณะกรรมการเพื่อขอคำตัดสิน/ตรวจสอบได้เป็นรายกรณี