จาก ICT มหิดล สู่ MIT มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก: แรงบันดาลใจจากศุลีพร ศุจิจันทรรัตน์ ศิษย์เก่า ICT รุ่นที่ 4

Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT หนึ่งในสถาบันการศึกษาของสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยความเป็นเลิศด้านวิชาการ การวิจัย และนวัตกรรม สถาบันแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีล้ำสมัยและการแก้ปัญหาท้าทายระดับโลก มีความเชี่ยวชาญหลากหลายด้าน ตั้งแต่วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ ไปจนถึงการจัดการและสังคมศาสตร์ ด้วยความพร้อมของทรัพยากร บุคลากร และเครือข่ายที่แข็งแกร่ง MIT จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักศึกษาจากทั่วโลกใฝ่ฝันที่จะเข้าศึกษา และในวันนี้ ศิษย์เก่าของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล (ICT Mahidol) ได้สำเร็จการศึกษาจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) แห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งศิษย์เก่าท่านนั้นมีชื่อว่า “คุณศุลีพร ศุจิจันทรรัตน์”

คุณศุลีพร ศุจิจันทรรัตน์ หรือ พี่ยุ้ย ศิษย์เก่า ICT มหิดล รุ่นที่ 4 ได้สร้างเส้นทางด้านการศึกษาที่น่าประทับใจ เพราะล่าสุดเพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตในหลักสูตร Electrical Engineering and Computer Science (EECS) จากสถาบัน Massachusetts Institute of Technology (MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนมกราคมปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence (AI)) และกำลังเตรียมก้าวไปสู่เส้นทางใหม่ในฐานะนักวิจัยหลังปริญญาเอก (Postdoctoral) ณ School of Medicine, Department of Radiology, University of Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI ไปประยุกต์ใช้ร่วมกับภาพ MRI (Magnetic Resonance Imaging) ของการแพทย์

เข้าศึกษาที่ MIT ได้อย่างไร?

พี่ยุ้ยเล่าว่าความสำเร็จในการเข้าศึกษาที่ MIT เริ่มต้นจากการทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโทที่ Imperial College London สหราชอาณาจักร ซึ่งหัวข้อวิทยานิพนธ์นั้นตรงกับหัวข้อที่อาจารย์จาก MIT กำลังมองหานักศึกษาระดับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตมาร่วมทำพอดี ซึ่งการได้เข้าศึกษาที่ Imperial College London สหราชอาณาจักรนั้น เพราะมีเครือข่ายศิษย์เก่าคณะ ICT เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ รุ่นพี่รุ่นน้องที่เคยศึกษาอยู่ที่ Imperial College London ได้สร้างชื่อเสียงและโปรไฟล์ที่ดีไว้ก่อนพี่ยุ้ยจะไปเรียน ทำให้มหาวิทยาลัยรู้จักคณะ ICT ของมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมให้การยอมรับอย่างดี และในส่วนของการใช้ภาษาอังกฤษ พี่ยุ้ยกล่าวว่าเป็นเพราะช่วงที่เรียนปริญญาตรี เรียนในหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นหลักสูตรนานาชาติ ของคณะ ICT ทำสามารถใช้ภาษาอังกฤษในช่วงเรียนต่อได้คล่องแคล่วขึ้นอีกด้วย

ประสบการณ์ที่ได้จากคณะ ICT ม.มหิดล

ช่วงเวลาที่เรียนอยู่ที่คณะ ICT ม.มหิดล พี่ยุ้ยไม่เพียงแค่เน้นการเรียนวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่ยังเข้าร่วมกิจกรรมและการแข่งขันต่างๆ เพื่อฝึกฝนทักษะนอกห้องเรียนด้วย โดยผลงานที่ได้เข้าร่วมแข่งขัน ได้แก่

  • โครงการ Samart Innovation Awards ปี 2008: พี่ยุ้ยและทีมได้รับรางวัลที่ 1 ระดับประเทศและรางวัล Popular Vote จากการพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ Track Me แอปพลิเคชันเพื่อการค้นหาโทรศัพท์มือถือที่หายไปโดยมี รศ. ดร.วัสกา วิสุทธิวิเศษ ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาความมั่นคงไซเบอร์และการประกันสารสนเทศ และ ดร.สรณันท์ จิวะสุรัตน์ (อาจารย์พิเศษของคณะ ICT) เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
พี่ยุ้ย และ รศ. ดร.วัสกา วิสุทธิวิเศษ
  • รางวัลเจ้าฟ้าไอที รัตนราชสุดา สารสนเทศ ครั้งที่ 5 ปี 2010: พี่ยุ้ยและทีมได้รับรางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศ (Outstanding Embedded-Building Automation) จากผลงาน Senior Project “Smart Home with ICT” โดยมี ศ. เกียรติคุณ ดร. ศุภชัย ตั้งวงศ์ศานต์ ที่ปรึกษาคณบดี คณะ ICT เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
พี่ยุ้ย และ ศ. เกียรติคุณ ดร. ศุภชัย ตั้งวงศ์ศานต์

พี่ยุ้ยกล่าวว่ากิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาทักษะทางเทคนิค แต่ยังฝึก Soft Skills เช่น การทำงานเป็นทีม การจัดการเวลา และการวางเป้าหมายในการทำงานอีกด้วย

หลังเรียนจบทำงานด้านไหน?

หลังจบการศึกษาจากคณะ ICT พี่ยุ้ยได้ทำงานในหลากหลายตำแหน่ง อาทิ Software Engineer บริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด (Accenture Solutions Co., Ltd.) นักวิจัยของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และ Consultant บริษัท อินเทลชั่น จำกัด (Inteltion Co., Ltd.) ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทในหลักสูตร Computing (Secure Software Systems) ณ Imperial College London สหราชอาณาจักร

คำแนะนำถึงน้องๆ คณะ ICT

พี่ยุ้ยฝากถึงน้องๆ คณะ ICT ว่า การเรียนเป็นสิ่งสำคัญในฐานะนักศึกษา แต่การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยเสริมสร้างทั้งความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา (Intelligence Quotient (IQ)) และ ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient (EQ)) รวมถึงเป็นการสร้างโปรไฟล์ที่โดดเด่นในการสมัครงานหรือการศึกษาต่อในอนาคตได้อีกด้วย นอกจากนี้ การแบ่งเวลาเพื่อทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ยังช่วยพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกัน และสร้างประสบการณ์ที่มีค่าในช่วงที่กำลังศึกษาเล่าเรียนอีกด้วย

ชมวิดีโอสัมภาษณ์พี่ยุ้ยได้ที่: https://youtu.be/WR1AKUsEieU?si=67655rSWfpi3IS6U

Leave a Reply

Your email address will not be published.